เมืองมหาสารคามถือว่าเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญและยาวนานมาหลายร้อยปี เพราะได้พบหลักฐานทางโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลทางพุทธศาสนาตั้งแต่สมัยคุปตะตอนปลายและปัลลวะของอินเดียผ่านเมืองพุกามมาในรูปแบบของศิลปะสมัยทวารวดี เช่น บริเวณเมืองกันทรวิชัย (โคกพระ) และเมืองนครจำปาศรี โดยพบหลักฐาน เป็นพระยืนกันทรวิชัย พระพิมพ์ดินเผา ตลอดทั้งพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนั้นแล้วยังได้รับอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ผ่านทางชนชาติขอม ในรูปแบบสมัยลพบุรี เช่น กู่สันตรัตน์ กู่บ้านเขวา กู่บ้านแดง และกู่อื่น ๆ รวมไปจนถึงเทวรูปและเครื่องปั้นดินเผาของขอมอยู่ตามผิวดินทั่ว ๆ ไปในจังหวัดมหาสารคาม มหาสารคามตั้งอยู่ตอนกลางของภาคอีสาน มีชนหลายเผ่า เช่น ชาวไทยพื้นเมืองพูดภาษาอีสาน ชาวไทยย้อและชาวผู้ไท ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี "ฮีตสิบสอง" ประกอบอาชีพด้านกสิกรรมเป็นส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมีการไปมาหาสู่กัน ช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกันตามแบบของคนอีสานทั่วไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยก "บ้านลาดกุดยางใหญ่" ขึ้นเป็น เมืองมหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2408 โดยแยกพื้นที่และพลเมืองราวสองพันคนมาจากเมืองร้อยเอ็ด และโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวมหาชัย (กวด ภวภูตานนท์) เป็นพระเจริญราชเดช เจ้าเมือง มีท้าวบัวทองเป็นผู้ช่วยขึ้นกับเมืองร้อยเอ็ด
ภูมิประเทศ
ของจังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบ ถึงลูกคลื่นลอนลาด พื้นที่โดยทั่วไปมีความสูงจาก ระดับน้ำทะเล ประมาณ 130 – 230 เมตร ด้านทิศตะวันตกและทิศเหนือเป็นที่สูงในเขตอำเภอโกสุมพิสัย อำเภอเชียงยืน และอำเภอกันทรวิชัย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่จังหวัด และค่อยๆ ลาดเทลงมาทางทิศตะวันออก และทิศใต้ มีลำน้ำชีไหลผ่าน พื้นที่ค่อนข้างลาดเทจากแนวทิศเหนือไปทางทิศตะวันออก พื้นที่เป็นลูกคลื่นประกอบด้วยเนินมออยู่ทั่วไปแต่ไม่มีภูเขา มีทุ่งนาสลับป่าโปร่ง ซึ่งมีไม้ในเขตร้อน หรือที่เรียกว่า ป่าโคก ขึ้นประปราย เช่น ไม้พวง เหียง กระบก เต็งรัง ตุมกา ฯลฯ สภาพภูมิประเทศสามารถแบ่งได้ 3 บริเวณ คือ
ที่ราบริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม เช่น บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำชี ที่อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมือง
พื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น อยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย
พื้นที่สูง อยู่ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกของจังหวัดในอำเภอโกสุมพิสัย อำเภอเชียงยืน แลพอำเภอกันทรวิชัย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 50 ของพื้นที่จังหวัด
ที่ราบริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม เช่น บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำชี ที่อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเมือง
พื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น อยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย
พื้นที่สูง อยู่ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกของจังหวัดในอำเภอโกสุมพิสัย อำเภอเชียงยืน แลพอำเภอกันทรวิชัย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 50 ของพื้นที่จังหวัด
ภูมิอากาศ
จังหวัดมหาสารคามมีสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมเมืองร้อน ( Tropical Monsoon Climate ) ในช้วงฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนอบอ้าว ในช่วงมรสุมฤดูร้อนจะได้รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งทำให้เกิดฝนตก สำหรับปริมาณน้ำฝนที่พื้นบริเวณจังหวัดได้รับนั้น ส่วนมากจะเกิดจากผลกระทบของพายุหมุนเขตร้อน ที่เคลื่อนผ่านประเทศเวียดนามและเข้าสูประเทศไทย
อุณหภูมิเฉลี่ยฤดูร้อนในรอบ 5 ปี (2542 – 2546) ประมาณ 41.14 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิสูงที่สุดวัดได้ 42.0 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2544 และในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลงต่ำลงมาก โดยในรอบ 5 ปี (2542-2546) มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10.02 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 5 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิร้อนอบอ้าว ฤดูร้อนอุณหภูมิร้อนเฉลี่ย 39.1 องศาเซลเซียส
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมไปถึงเดือนตุลาคม เนื่องจากเป็นระยะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เข้าสู่ประเทศไทย ปริมาณฝนที่ตกในระยะ 6 เดือน อยู่ใยนเกณฑ์ตั้งแต่ 1 , 000 มิลลิเมตร/ปี
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 12.8 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศหนาวเย็นตั้งแต่เดือนตะลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
อุณหภูมิเฉลี่ยฤดูร้อนในรอบ 5 ปี (2542 – 2546) ประมาณ 41.14 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิสูงที่สุดวัดได้ 42.0 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2544 และในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลงต่ำลงมาก โดยในรอบ 5 ปี (2542-2546) มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10.02 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 5 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิร้อนอบอ้าว ฤดูร้อนอุณหภูมิร้อนเฉลี่ย 39.1 องศาเซลเซียส
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมไปถึงเดือนตุลาคม เนื่องจากเป็นระยะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เข้าสู่ประเทศไทย ปริมาณฝนที่ตกในระยะ 6 เดือน อยู่ใยนเกณฑ์ตั้งแต่ 1 , 000 มิลลิเมตร/ปี
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 12.8 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศหนาวเย็นตั้งแต่เดือนตะลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
คำขวัญ :พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักสิลานคร |
ต้นไม้ :พฤกษ์ (มะรุมป่า) |
ดอกไม้ :ลั่นทมขาว (จำปาขาว) |
เว็บไซต์ :http://www.mahasarakham.go.th |
ศูนย์ราชการ :ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ถนนเลี่ยงเมืองมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ตำบลแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 44000 |
แผนที่ :แผนที่ท่องเที่ยว |
หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 13 อำเภอ 133 ตำบล 1804 หมู่บ้าน ได้แก่
อำเภอเมืองมหาสารคาม, อำเภอแกดำ, อำเภอโกสุมพิสัย, อำเภอกันทรวิชัย, อำเภอเชียงยืน, อำเภอบรบือ, อำเภอนาเชือก, อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย, อำเภอวาปีปทุม, อำเภอนาดูน, อำเภอยางสีสุราช, อำเภอกุดรัง, อำเภอชื่นชม
อำเภอเมืองมหาสารคาม, อำเภอแกดำ, อำเภอโกสุมพิสัย, อำเภอกันทรวิชัย, อำเภอเชียงยืน, อำเภอบรบือ, อำเภอนาเชือก, อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย, อำเภอวาปีปทุม, อำเภอนาดูน, อำเภอยางสีสุราช, อำเภอกุดรัง, อำเภอชื่นชม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น